คุณประโยชน์ของน้ำมันอะโวคาโด ที่ดีต่อผิวและผม

คุณประโยชน์ของน้ำมันอะโวคาโด ที่ดีต่อผิวและผม

                    เป็นที่รู้กันดีว่า อะโวคาโด นั้นเป็นผลไม้ที่นับเป็นหนึ่งในซูเปอร์ฟู้ด เพราะอุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย แต่นอกเหนือจากอะโวคาโดในรูปของผลไม้แล้ว อะโวคาโดในรูปของ น้ำมัน ก็เป็นอีกหนึ่งในสุดยอดน้ำมันธรรมชาติ ที่ดีต่อร่างกายทั้งภายในและภายนอก รวมถึงผิวพรรณและเส้นผมของเราด้วย บำรุงผิวให้แข็งแรงนอกจากการกินเพื่อบำรุงร่างกายจากภายในแล้ว ยังใช้น้ำมันอะโวคาโดทาลงบนผิว เพื่อช่วยเพิ่มความสามารถในการสร้างเซลล์ผิวใหม่ที่แข็งแรงกว่าเก่าได้อีกด้วย เนื่องจาก วิตามินอี โพแทสเซียม และเลซิธิน ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญในน้ำมันอะโวคาโด สามารถซึมผ่านจากผิวชั้นนอก เข้าสู่ผิวชั้นใน และช่วยสร้างพลังงานให้ผิว ทำให้เซลล์ผิวใหม่เติบโตเร็วขึ้นได้ ลดการอักเสบและคันที่ผิวในน้ำมันอะโวคาโด มีกรดโอเลอิกที่มีคุณสมบัติต้านอักเสบ เวลาที่เอามาทาบนผิว จึงสามารถช่วยบรรเทาความรู้สึกไม่สบายทั้งหลายของผิวได้ เช่น อาการคัน ผิวแตก ผิวไหม้ ผิวอักเสบ และสะเก็ดเงิน อย่างไรก็ตาม ก่อนใช้ควรลองทาลงบนผิวในบริเวณเล็กๆ เพื่อทดสอบอาการแพ้ดูก่อน ทำให้แผลบนผิวหนังหายเร็วขึ้นจากการศึกษาพบว่า ครีมที่มีส่วนผสมของน้ำมันอะโวคาโดและวิตามินบี 12 ช่วยทำให้อาการของโรคสะเก็ดเงินดีขึ้น หลังจากใช้ไป 12 สัปดาห์ และยังพบอีกว่า น้ำมันอะโวคาโดช่วยเยียวยาผิวหนังที่บาดเจ็บได้ และช่วยให้แผลหายเร็วขึ้นด้วย ทำให้ผมแข็งแรงขึ้นและยาวเร็วขึ้นในน้ำมันอะโวคาโด มีสารอาหารที่เหมาะมากสำหรับการบำรุงผม ลองใช้น้ำมันอะโวคาโดหมักผม หรือเอาไปผสมกับน้ำมันหอมระเหยอื่นๆ ที่มีประโยชน์ต่อผมและหนังศีรษะ ทาลงบนเส้นผมและหนังศีรษะ จะทำให้ผมดูดี แข็งแรงขึ้น และยาวเร็วขึ้น

Read More

รวมสูตรลับ แก้เข่าศอกด้าน

รวมสูตรลับ แก้เข่าศอกด้าน

                 เรื่องเข่าดํา-ศอกด้าน นับเป็นปัญหาใหญ่ของสาวๆ หลายคน ที่ทำให้ขาดความมั่นใจได้ไม่น้อย วันนี้เราจึงมีวิธีการที่จะช่วยจัดการกับปัญหานี้ได้ง่ายๆ ด้วยสิ่งของใกล้ตัวมาฝาก จะมีอะไรบ้าง ลองไปดูพร้อมๆ กันเลย มะขามเปียกกับนมสดคนทำอาหารทั่วไป ปกติก็คงต้องมีมะขามเปียกไว้ติดบ้านกันอยู่แล้ว ลองหยิบมาทำสวยสักนิดคงไม่เป็นไร เริ่มจากการนำมะขามเปียกมาคั้นจนได้น้ำข้นเนื้อเนียน ผสมเข้ากับนมสดจืดในอัตราส่วนที่เท่ากัน แล้วนำมานวดวนในจุดมีปัญหาดำด้าน ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที ค่อยล้างออก ความเป็นกรดของมะขามจากธรรมชาติ จะช่วยทำให้ผิวค่อยๆ กระจ่างใส และไม่กลับมาดำด้านอีกต่อไป มะเขือเทศกับน้ำตาลสูตรนี้ก็ไม่ยากเลย แค่นำมะเขือเทศมาฝานบางๆ แล้วชุบกับน้ำตาลให้ทั่ว หรือจะทำเป็นมะเขือเทศปั่นผสมกับน้ำตาลให้เป็นเนื้อสครับไปเลยก็ได้ จากนั้นก็นำมาขัดผิวบริเวณที่มีปัญหาดำด้านด้วยการสครับวนๆ เซลล์ผิวที่มีปัญหาก็จะค่อยๆ หลุดลอกออก ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที ค่อยล้างน้ำ ทำซ้ำเป็นประจำสัปดาห์ละ 1-2ครั้ง AHA ธรรมชาติจากมะเขือเทศ จะช่วยให้ผิวบริเวณนั้นกระจ่างใสขึ้น น้ำมันมะพร้าวกับเกลือน้ำมันมะพร้าวอุดมไปด้วยวิตามินอี จึงให้ความชุ่มชื้นกับผิวบริเวณที่ดำด้านได้เป็นอย่างดี สูตรนี้ให้ใช้น้ำมันมะพร้าวผสมเข้ากับเกลือเม็ดละเอียด ค่อยๆ ขัดเบาๆ ที่ผิว แล้วทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที น้ำมันมะพร้าวจะช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื่น และหายดำด้าน ใครที่มีปัญหาผิวแห้งตึงหลังจากการขัดผิว ใช้สูตรนี้รับรองไม่ผิดหวัง มะนาวกับโยเกิร์ตมะนาว ถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มีความเป็นกรดจากธรรมชาติ

Read More

5 สูตรมาร์คผมจากธรรมชาติ เพื่อฟื้นบำรุงผมสวย

5 สูตรมาร์คผมจากธรรมชาติ เพื่อฟื้นบำรุงผมสวย

ผมเรียกได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญต่อบุคลิกภาพมากเลยทีเดียว ถ้าหน้าคุณหนุ่มๆหรือสาวๆเป๊ะ ดูสวยดูดีแต่ถ้าผมพัง ชี้ฟู ก็จะทำให้พังกันไปตามๆกัน และยิ่งช่วงสถานการณ์โควิด-19 กำลังระบาดเช่นนี้ ก็ไม่รู้ว่าร้านทำผมหรือสปาผมจะเปิดอีกเมื่อไหร่ แต่หมดกังวลไปได้เลยเพราะในวันนี้เรามีไอเดียการบำรุง ฟื้นฟูผมมาแนะนำซึ่งทุกคนสามารถทำได้ที่บ้านเองง่ายๆ เป็นวิธีมาร์คผมจากธรรมชาติ เรียกได้ว่าทำได้ง่ายๆ ไม่ยุ่งยากแถมประหยัดเงินไปได้มากเลยทีเดียว 1.สูตรมะนาว สูตรนี้จะเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาผมที่มัน เพราะมะนาวหรือเลม่อนมีส่วนช่วยในการกำจัดน้ำมันส่วนเกิน ช่วยดูดซับไขมันต่างๆได้เป็นอย่างดีทาก อีกทั้งยังมีวิตามินซีสูงที่จะทำให้เส้นผมของคุณมีความแข็งแรงมากขึ้น แถมมะนาวมีฤทธิ์เป็นกรดทำให้ช่วยชะล้างสิ่งสกปรกบนหนังศรีษะหรือเส้นผมที่ตกค้างได้ดีมากๆอีกด้วย และลดปัญหาที่คนส่วนใหญ่เป็นกันคือช่วยลดการก่อเกิดของรังแคนั่นเอง 2.สูตรน้ำผึ้ง สูตรนี้เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาผมแห้งเสีย ชี้ฟูมากๆ ซึ่งตัวน้ำผึ้งมีสารจากธรรมชาติที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ให้กับเส้นผม จะไปช่วยฟื้นบำรุงผมเสียเหล่านั้นให้กลับมานุ่มลื่น เป็นทรงสวย เส้นผมแข็งแรงมีน้ำหนัก และมีความเงางามแน่นอน 3.สูตรเบียร์ สูตรนี้จะช่วยบำรุงให้เส้นผมแข็งแรงมากขึ้น ลดการขาดหลุดล่วงของเส้นผม ทำให้เส้นผมมีน้ำหนักมากขึ้นกว่าเดิม ที่สำคัญนอกจากนี้ยังช่วยปรับสภาพให้กับเส้นผมได้ดี ทำให้ผมของคุณโดดเด่นนุ่มลื่น เงางามสะดุดตา 4.สูตรอะโวคาโด อะโวคาโดเรียกได้ว่าเป็นผลไม้ของคนรักสุขภาพเลยก็ว่าได้ นอกจากทานเพื่อสุขภาพแล้วนั้นยังสามารถนำมามาร์คผมเพื่อผมสวยได้อีกด้วยโดยน้ำมันในอะโวคาโดนั้นมีส่วนช่วยในการเรื่องการงอก การเติบโตของเส้นผม คุณอาจนำเอาเนื้ออะโวคาโดบดผสมกับน้ำมันมะกอกผสมกันเพื่อได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าเดิมซึ่งจะช่วยให้ผมแข็งแรง แถมฟื้นฟูผมแห้งให้กลับมานุ่มสลวยดังเดิม 5.สูตรโยเกิร์ต สูตรนี้จะช่วยลดผมชี้ฟู ลดปัญหาเส้นผมแตกปลายได้เพราะโยเกิร์ตนั้นอุดมไปด้วย Lactic Acid ซึ่งช่วยดูแลผมที่ถูกทำลายที่มีสาเหตุมาจากการทำสีผม การยืดผม การดัดผม หรือสารเคมีต่างๆที่มีมาจากการตกแต่งทรงผมนั่นเอง อาจนำไปผสมกับกล้วยหอมหรือน้ำผึ้งก็ได้แล้วนำมาหมักผม รับรองว่าผลลัพธ์จะดีกว่าเดิมเพราะในกล้วยหอมจะช่วยฟื้นบำรุงและให้ความชุ่มชื้นกับเส้นผมได้ดีมากๆ รับรองว่าไม่ว่าจะหนุ่มๆหรือสาวๆท่านใดที่ทำตามสูตรเหล่านี้ผมของคุณก็จะฟื้นฟูกลับมามีสุขภาพดีและน้ำหนักเส้นผมที่แข็งแรงแน่นอน เพียงแค่คุณขยันมาร์คผมเพียง2-3ครั้งต่อสัปดาห์เท่านั้นเอง ที่สำคัญสูตรเหล่านี้เป็นสูตรที่สามารถทำได้เองเพราะวัตถุดิบหาได้จากธรรมชาติ หาซื้อได้ง่ายๆ

Read More

สูตรผมตรงไม่ต้องยืดจากธรรมชาติ

สูตรผมตรงไม่ต้องยืดจากธรรมชาติ

                 เชื่อว่าผู้หญิงหลายคนน่าจะใฝ่ฝันอยากมีผมตรงสวย ดูมีสุขภาพดี โดยเฉพาะคนที่มีผมหยิก หยักศก หรือชี้ฟู เพราะผมตรงนั้นค่อนข้างง่ายต่อการดูแลและจัดทรงมากกว่า                  วิธีทำให้ผมตรงนั้นคนส่วนใหญ่มักจะเลือกใช้วิธีการยืดผมที่ร้าน ซึ่งสามารถทำให้ผมตรงรวดเร็วทันใจก็จริง แต่ถ้าดูแลไม่ดีพอ เส้นผมก็ดูหยาบกระด้าง และกลายเป็นผมเสียได้ในระยะยาวได้ ฉะนั้นใครที่มองหาวิธีทำให้ผมตรงโดยไม่ต้องยืดให้ความร้อนทำลายเส้นผม วันนี้เรามีวิธีทําให้ผมตรงจากธรรมชาติ ที่สามารถทำเองได้ง่ายๆ ที่บ้านมาแนะนำ น้ำมันมะพร้าว+น้ำมันละหุ่งให้นำน้ำมันทั้ง 2 ชนิดมาผสมกันอย่างละ 1 ช้อนโต๊ะ จากนั้นให้เติมน้ำอุ่นเล็กน้อย แล้วเอามานวดผมเบาๆ เป็นเวลา 15 นาที ต่อด้วยการหมักทิ้งไว้อีก 30 นาที ก่อนล้างออกด้วยน้ำเย็น แล้วตามด้วยการสระผมด้วยแชมพูตามปกติ ทำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เพื่อผลลัพธ์ที่ดี กะทิ+น้ำเลม่อนคุณสมบัติของกะทิจะช่วยให้ผมดูมีน้ำหนัก ลดอาการชี้ฟู แถมยังช่วยให้ผมนุ่มลื่นขึ้น ส่วนน้ำเลม่อนยังช่วยชะลอการเกิดผมหงอกได้อีกด้วย โดยให้ผสมกะทิ ¼ ถ้วย กับน้ำเลม่อน 1 ช้อนโต๊ะ จากนั้นนำไปแช่เย็น 1 คืน แล้วนำมาชโลมบนเส้นผมตั้งแต่โคนผมถึงปลายผม ทิ้งไว้ 30 นาที ก่อนล้างออกด้วยน้ำเย็น แล้วสระผมด้วยแชมพูตามปกติ

Read More

ทำความรู้จัก “ไฮยารูลอน” ก่อนบำรุงผิว

ทำความรู้จัก “ไฮยารูลอน” ก่อนบำรุงผิว

                  ความสวย คือ เป้าหมายที่สาวๆ ต้องการจากสกินแคร์และเครื่องสำอาง หลายคนจึงเลือกใช้ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมชั้นดีเท่านั้น และเชื่อว่าใครที่เป็นสายรักสวยรักงามคงเคยได้ยินชื่อ ไฮยารูลอน กันมาบ้าง เพราะเป็นส่วนผสมที่เราพบได้บ่อยในสกินแคร์ต่างๆ แต่จะมีซักกี่คนที่รู้ว่าไฮยารูลอนคืออะไรกันแน่              ความจริงแล้ว ไฮยารูลอน หรือ กรดไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) นั้น เป็นสารธรรมชาติที่ร่างกายของคนเราก็สามารถผลิตขึ้นได้เอง แต่พออายุมากขึ้น เจ้าไฮยารูลอนนี้ก็จะค่อยๆ ลดปริมาณการผลิตลง นั่นทำให้เราต้องหาจากที่อื่นมาเติมเต็ม เพื่อให้ผิวยังคงเต่งตึง ชุ่มชื้น ดูอิ่มน้ำ ไร้ริ้วรอย และกระจ่างใส ด้วยสรรพคุณเหล่านี้เอง จึงทำให้ไฮยารูลอนกลายเป็นส่วนผสมยอดฮิต ที่มีทั้งในสกินแคร์ และเครื่องสำอาง ประโยชน์ของไฮยารูลอน               เมื่อได้รู้จักแล้วว่า ไฮยารูลอนคืออะไร และมีประโยชน์อย่างไร ต่อไปนี้ก่อนซื้อเครื่องสำอาง หรือสกินแคร์ต่างๆ มาใช้ ก็อย่าลืมดูส่วนผสมหลักด้วยว่ามีไฮยารูลอนหรือไม่ ที่สำคัญต้องไม่ลืมทดสอบการแพ้ก่อนซื้อมาใช้จริง เพราะต่อให้ส่วนผสมดีแค่ไหน แต่ถ้าใช้แล้วแพ้ หรือเกิดเอฟเฟ็กต์ที่ไม่ดีกับตัวเราก็ไม่ควรเลือกมาใช้ ติดตามบทความ beauty tip ในทุกสัปดาห์ได้ที่ thebeauty-checkin.com FB : Beauthy Healthy

ข้อแนะนำสำหรับคนทำเล็บเจล

ข้อแนะนำสำหรับคนทำเล็บเจล

               ทุกวันนี้การทำเล็บเจลถือว่าได้รับความนิยมมากสำหรับสาวๆ ที่รักสวยรักงาม หลายคนถึงขั้นซื้อเครื่องอบเล็บไว้ทำเองที่บ้านเลยก็มี วันนี้เราเลยจะมาแนะนำเทคนิคสำคัญของการทำเล็บเจล ที่บางคนอาจจะมองข้ามไป และบางครั้งช่างทำเล็บก็ไม่เคยบอกเราด้วย จะมีอะไรบ้างมาดูกันดีกว่า                 ใครทำเล็บเจล ก็อย่าลืมเอาเทคนิคเหล่านี้ไปใช้กันดูนะ หากอยากจะสวย ก็ต้องสวยให้ถูกวิธีด้วยจ้า ติดตามบทความ beauty tip ในทุกสัปดาห์ได้ที่ thebeauty-checkin.com FB : Beauthy Healthy

หนีบผมยังไงไม่ให้ดูลีบแบน

หนีบผมยังไงไม่ให้ดูลีบแบน

                  เคยสังเกตกันไหมว่า แค่เปลี่ยนทรงผมหน้าก็เปลี่ยนไปตามด้วย อย่างเวลาที่เราปล่อยให้ผมชี้ฟู กับหนีบผมให้เรียบตรง ลุคก็ดูแตกต่างกันมากราวกับคนละคนเลยก็ว่าได้ เเต่การหนีบผมบางครั้งก็ทำให้ดูลีบแบนเกินไป จนดูไม่เป็นธรรมชาติ ทำเอาหลายคนท้อใจที่จะหนีบ วันนี้เราเลยจะมาแนะนำทริคการหนีบผมยังไงไม่ให้ดูลีบเกินไปมาฝาก ใครกำลังมีปัญหานี้อยู่ ตามมาดูกันด่วนเลย               จะเห็นได้ว่า วิธีทั้งหมดที่ได้แนะนำมานี้ล้วนสามารถทำได้ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก แต่ขอบอกว่าทุกขั้นตอนนั้นสำคัญทั้งหมดนะ เพราะฉะนั้นแนะนำให้ทำควบคู่กัน อย่าให้ขาดขั้นตอนไหนเด็ดขาด เพื่อผลลัพธ์ที่ดีสมบูรณ์แบบยังไงล่ะ ติดตามบทความ beauty tip ในทุกสัปดาห์ได้ที่ thebeauty-checkin.com FB : Beauthy Healthy

ข้อควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก

ข้อควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก

               ในช่วงหลังๆ มานี้ หากสังเกตจะเห็นว่าการฉีดฟิลเลอร์ปากนับเป็นกระแสที่มาแรงมากๆ เนื่องจากเป็นวิธีที่สามารถช่วยแก้ปัญหาริมฝีปากได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งนอกจากจะช่วยปรับโครงสร้างรูปปากให้สวยขึ้นได้แล้ว ยังทำให้ปากดูสุขภาพดีขึ้นด้วย สำหรับใครที่สนใจการฉีดฟิลเลอร์ปาก วันนี้เราได้รวบรวมข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจทำจริงมาฝาก จะมีอะไรบ้าง ลองมาดูกันเลย การฉีดฟิลเลอร์ปากคืออะไรการฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นการเติมสารประเภทไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) ที่มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำเข้าไปในริมฝีปาก เพื่อแก้ปัญหารูปปากไม่สวย เช่น ปากบาง ปากบนล่างไม่สมดุล ปากคว่ำ รวมทั้งแก้ปัญหาปากลอก ปากแห้งแตก ให้สวยอวบอิ่ม ดูสุขภาพดีมากขึ้น ฉีดฟิลเลอร์ปากเจ็บไหมต้องบอกว่ามีเจ็บบ้าง แต่เป็นความเจ็บในระดับที่ทนได้ ซึ่งโดยปกติแล้วในการฉีดฟิลเลอร์ทั่วไปจะต้องมีการทายาชาก่อนฉีด หรือฟิลเลอร์บางตัวก็อาจมียาชาอยู่ในตัวด้วยเช่นกัน การฉีดฟิลเลอร์ปากอยู่ได้นานแค่ไหนความคงทนของการทำฟิลเลอร์ปากนั้น ย่อมขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ที่นำมาฉีด โดยส่วนใหญ่จะมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 6-18 เดือน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ของแต่ละคนด้วย หากดูแลตัวเองอย่างถูกต้องก็จะช่วยยืดอายุของฟิลเลอร์ปากให้นานขึ้นได้ ฟิลเลอร์ปากอันตรายไหมการฉีดฟิลเลอร์ปากไม่มีอันตราย เนื่องจากสารที่ใช้ฉีดเป็นสาร Hyaluronic Acid ซึ่งสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ 100% แต่ต้องเป็นฟิลเลอร์แท้เท่านั้น อาการข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์ปากหลังการฉีดฟิลเลอร์ ปากมักมีอาการบวม แดง หรือปวดบ้าง และปากก็จะยังไม่เข้ารูปทันที ซึ่งถือเป็นอาการปกติ โดยจะค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ และทรงปากก็จะเข้ารูปมากขึ้น ข้อดี-ข้อเสียการฉีดฟิลเลอร์ปาก     

Read More

เลเซอร์รักแร้ขาว

เลเซอร์รักแร้ขาว

                    สำหรับผู้หญิงแล้ว การดูแลความงามไม่ได้มีแค่ใบหน้าหรือผิวกายเท่านั้น แต่จุดอื่นอย่าง “ใต้วงแขน” ก็ควรต้องดูแลด้วยเช่นกัน แต่การกำจัดขนรักแร้ด้วยวิธีการต่างๆ ทั้งโกน ถอน หรือแว็กซ์ ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้รักแร้หมองคล้ำ และเกิดเป็นตุ่มหนังไก่ได้ทั้งสิ้น สำหรับวิธีแก้ไขเบื้องต้นนั้น เราอาจใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงใต้วงแขนโดยเฉพาะช่วยได้ แต่หากยังไม่ดีขึ้น “เลเซอร์รักแร้ขาว” ก็ถือเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจเลยทีเดียว เลเซอร์รักแร้ขาวคืออะไร การทำเลเซอร์รักแร้ขาว คือการใช้เลเซอร์ยิงเข้าไปยังจุดดำคล้ำที่อยู่ลึกในชั้นผิวหนัง เพื่อลดเม็ดสีดำและปรับสีผิวที่คล้ำให้ขาวขึ้น ทั้งยังทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ช่วยให้ผิวใต้วงแขนเรียบเนียนและไม่เป็นตุ่มหนังไก่อีกด้วย ทั้งนี้ผลลัพธ์ที่ได้ย่อมขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนด้วย เลเซอร์รักแร้ขาวทำงานอย่างไรโดยทั่วไปแล้วเลเซอร์ที่คลินิกส่วนใหญ่ใช้จะเป็นเลเซอร์ประเภท Non-ablative คือ เลเซอร์ที่ไม่ก่อให้เกิดสะเก็ดแผล เช่น IPL หรือ Pico Laser ซึ่งเป็นเลเซอร์ที่มีประสิทธิผลในการปรับสีผิวได้ดีที่สุด โดยการทำงานของเลเซอร์จะเป็นการปล่อยพลังงานออกไปยังเมลานิน หรือ เซลล์เม็ดสี แล้วทำให้มันค่อยๆ สลายไป ส่งผลให้รักแร้ขาวเนียนขึ้น ความแตกต่างของ “เลเซอร์รักแร้ขาว” กับ “เลเซอร์กำจัดขน”โดยส่วนใหญ่คนจะเข้าใจว่าเลเซอร์รักแร้ขาว คือวิธีเดียวกับเลเซอร์กำจัดขน แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ เพราะใช้เลเซอร์คนละโหมดกัน แต่ทั้ง 2 อย่างนี้ก็มักจะเป็นโปรแกรมที่ทำควบคู่กัน โดยเริ่มจากทำเลเซอร์กำจัดขนก่อน แล้วจึงต่อด้วยเลเซอร์ปรับสีผิวนั่นเอง เลเซอร์รักแร้ขาวเหมาะกับใคร สำหรับสาวๆ ที่ต้องโชว์วงแขนบ่อยๆ

Read More

เคล็ดลับความสวยของ 4 สาว BLACKPINK

เคล็ดลับความสวยของ 4 สาว BLACKPINK

                  นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก BLACKPINK เกิล์ดกรุ๊ปวงดังแห่งเกาหลีใต้ ที่นอกจากความสามารถด้านดนตรีของสาวๆ แล้ว รูปร่างหน้าตาของสมาชิกทั้ง 4 สาว ได้แก่ จีซู โรเซ่ เจนนี่ และลิซ่า ก็เป็นที่จับตามองของสาวๆ ทั่วโลกด้วยเช่นกัน วันนี้เราเลยจะขอพาสาวก BLINKS ทั้งหลาย มาดูเคล็ดลับความงาม ที่ทำให้พวกเธอออร่าพุ่งกระจายแบบสุดๆ รับรองว่าทำตามได้ไม่ยากเลย JISOO เริ่มกันที่พี่สาวคนโตของวงอย่าง จีซู ซึ่งนอกจากหน้าหวานแล้วยังหน้าเด็ก และสวยใสไม่แพ้น้องๆ เคล็ดลับผิวสุขภาพดีของเธอนั้น นอกจากการใช้เครื่องสำอางทั่วๆ ไป อย่างคลีนเซอร์ โทนเนอร์ อายครีม ไปจนถึงมาสก์แล้ว เคล็ดลับที่เธอให้ความสำคัญมากๆ อีกอย่างหนึ่งก็คือการกิน เริ่มจากดื่มน้ำมากๆ เพื่อช่วยชะล้างสิ่งตกค้างในร่างกาย เรื่องต่อมาคือการเลือกกินอาหารเฮลตี้ เช่น ถ้าอยากกินของหวาน ก็จะกินผลไม้แทน หรือถ้าอยากกินของเค็มๆ ก็จะเลือกป๊อปคอร์นแบบเฮลตี้ แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็ให้จัดได้แค่สัปดาห์ละครั้งเท่านั้น สุดท้ายคือ ห้ามนอนพร้อมเครื่องสำอางเด็ดขาด ไม่ว่าจะทำงานมาหนักแค่ไหน หรือแฮงก์เอาต์มาก็ตาม แต่เครื่องสำอางต้องล้างออกก่อนนอนเสมอ ROSE’ อีกหนึ่งสาวที่ได้ชื่อว่าเสียงดีมากๆ แถมยังมีรูปร่างดีไม่แพ้เสียง นั่นก็คือ

Read More