คุณประโยชน์ของน้ำมันอะโวคาโด ที่ดีต่อผิวและผม

คุณประโยชน์ของน้ำมันอะโวคาโด ที่ดีต่อผิวและผม

                    เป็นที่รู้กันดีว่า อะโวคาโด นั้นเป็นผลไม้ที่นับเป็นหนึ่งในซูเปอร์ฟู้ด เพราะอุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย แต่นอกเหนือจากอะโวคาโดในรูปของผลไม้แล้ว อะโวคาโดในรูปของ น้ำมัน ก็เป็นอีกหนึ่งในสุดยอดน้ำมันธรรมชาติ ที่ดีต่อร่างกายทั้งภายในและภายนอก รวมถึงผิวพรรณและเส้นผมของเราด้วย

บำรุงผิวให้แข็งแรง
นอกจากการกินเพื่อบำรุงร่างกายจากภายในแล้ว ยังใช้น้ำมันอะโวคาโดทาลงบนผิว เพื่อช่วยเพิ่มความสามารถในการสร้างเซลล์ผิวใหม่ที่แข็งแรงกว่าเก่าได้อีกด้วย เนื่องจาก วิตามินอี โพแทสเซียม และเลซิธิน ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญในน้ำมันอะโวคาโด สามารถซึมผ่านจากผิวชั้นนอก เข้าสู่ผิวชั้นใน และช่วยสร้างพลังงานให้ผิว ทำให้เซลล์ผิวใหม่เติบโตเร็วขึ้นได้

ลดการอักเสบและคันที่ผิว
ในน้ำมันอะโวคาโด มีกรดโอเลอิกที่มีคุณสมบัติต้านอักเสบ เวลาที่เอามาทาบนผิว จึงสามารถช่วยบรรเทาความรู้สึกไม่สบายทั้งหลายของผิวได้ เช่น อาการคัน ผิวแตก ผิวไหม้ ผิวอักเสบ และสะเก็ดเงิน อย่างไรก็ตาม ก่อนใช้ควรลองทาลงบนผิวในบริเวณเล็กๆ เพื่อทดสอบอาการแพ้ดูก่อน

ทำให้แผลบนผิวหนังหายเร็วขึ้น
จากการศึกษาพบว่า ครีมที่มีส่วนผสมของน้ำมันอะโวคาโดและวิตามินบี 12 ช่วยทำให้อาการของโรคสะเก็ดเงินดีขึ้น หลังจากใช้ไป 12 สัปดาห์ และยังพบอีกว่า น้ำมันอะโวคาโดช่วยเยียวยาผิวหนังที่บาดเจ็บได้ และช่วยให้แผลหายเร็วขึ้นด้วย

ทำให้ผมแข็งแรงขึ้นและยาวเร็วขึ้น
ในน้ำมันอะโวคาโด มีสารอาหารที่เหมาะมากสำหรับการบำรุงผม ลองใช้น้ำมันอะโวคาโดหมักผม หรือเอาไปผสมกับน้ำมันหอมระเหยอื่นๆ ที่มีประโยชน์ต่อผมและหนังศีรษะ ทาลงบนเส้นผมและหนังศีรษะ จะทำให้ผมดูดี แข็งแรงขึ้น และยาวเร็วขึ้น

ข้อควรระวัง
อะโวคาโดนั้นจัดว่าค่อนข้างจะปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่ ในการนำมากินเป็นอาหาร อย่างไรก็ตาม ในคนที่มีอาการแพ้ยาง (Latex) อาจจะไม่สามารถทนต่ออะโวคาโด หรือน้ำมันอะโวคาโดได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนที่แพ้ยางแล้วจะต้องแพ้อะโวคาโดไปด้วยทั้งหมด อย่างไรก็ตาม คนที่แพ้ยางควรระมัดระวังในการกินอะโวคาโด และควรปรึกษาแพทย์ก่อน หากต้องการใช้น้ำมันอะโวคาโด

                  สุดท้าย สำหรับใครที่ไม่เคยใช้น้ำมันอะโวคาโดมาก่อน และยังไม่รู้วิธีการใช้งาน วิธีที่ง่ายๆ เลยก็คือ การเหยาะลงไปในสมูธตี้ น้ำสลัด หรือใช้เป็นน้ำมันสำหรับปรุงอาหารไปเลยก็ได้เช่นกัน

ติดตามบทความ beauty tip ในทุกสัปดาห์ได้ที่ thebeauty-checkin.com

FB : Beauthy Healthy

บทความอื่นๆที่น่าสนใจ