Month: January 2022

เมื่อเป็นสิวห้ามทำ หลายคนเป็นสิวอักเสบเรื้อรังไม่ยอมหายสักที ทั้งๆ ที่ใช้ยารักษาสิวก็แล้ว ใช้ครีมบำรุงผิวที่เหมาะกับคนมีสิวก็แล้ว แต่สิวก็ยังไม่หายไป นั่นอาจเป็นเพราะ ยังคงทำพฤติกรรมบางอย่าง ที่เป็นปัจจัยให้สิวเห่อนั่นเอง วันนี้เราได้รวบรวมข้อห้ามที่ไม่ควรทำ ถ้าอยากให้สิวหายเร็วมาฝาก จะมีอะไรบ้าง มาดูกันเลย เอามือสัมผัสหน้าสิ่งแรกที่ต้องเลิกทำ ก็คือ การเอามือสัมผัสใบหน้า เพราะเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้สิวขึ้นโดยไม่รู้ตัว อย่าลืมว่ามือของเรานั้นเป็นแหล่งรวมเชื้อโรคมากมาย เพราะแต่ละวัน เราไม่มีทางรู้เลยว่า ได้เอามือไปสัมผัสกับสิ่งสกปรกอะไรมาบ้าง การเอามือไปสัมผัสหน้า จึงเป็นการทำให้เชื้อโรคไปเกาะติดที่ผิวหน้า แล้วเข้าไปอุดตันในรูขุมขนจนเกิดสิวตามมา บีบหัวสิวคนมีสิว เห็นสิวแล้วย่อมจะรู้สึกอยากบีบอยากแกะเป็นธรรมดา แต่รู้หรือไม่ว่า การบีบสิวด้วยตัวเอง โดยไม่รู้วิธีการที่ถูกต้องนั้น แทนที่จะทำให้สิวยุบลง กลับเป็นการทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง จนมีรอยสิวที่รักษาหายช้า และแบคทีเรียที่ติดตามซอกเล็บ ก็อาจก่อให้เกิดสิวอักเสบตามมาอีกด้วย สครับหน้าอย่าเข้าใจผิดว่าการสครับหน้าในช่วงที่กำลังมีสิว จะช่วยกำจัดสิ่งสกปรกบนใบหน้าออกได้ดียิ่งขึ้น เพราะนอกจากจะไม่เป็นผลดีต่อผิวหน้าแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นให้สิวเห่อหนักกว่าเดิมด้วย เพราะการสครับจะยิ่งทำให้ผิวระคายเคือง ส่งผลให้ผิวบางลง และสิวบุกขึ้นเต็มหน้าได้ กินของหวานและของทอดของหวาน ของทอด ของมัน ถือเป็นของอร่อยที่สาวๆ หลายคนโปรดปรานนักหนา แต่ถ้าอยู่ในช่วงของการรักษาสิว แนะนำให้ลดปริมาณอาหารเหล่านี้ลงให้มากที่สุด เพราะอาหารที่มีน้ำตาลและกรดไขมันสูง จะยิ่งไปกระตุ้นให้เกิดสิวมากกว่าเดิม ใช้ปลอกหมอนไม่สะอาดหลายคนอาจมองข้ามปลอกหมอนที่ใช้เป็นประจำ ซึ่งเป็นสิ่งที่สัมผัสผิวหน้าบ่อยมาก และแทบจะตลอดทั้งคืน ดังนั้นหากปลอกหมอนสกปรก ก็จะทำให้สิวขึ้นบนใบหน้าได้

Read More

5 เคล็ดลับดูแลตัวเองในราคาประหยัด         เป็นผู้หญิง หยุดสวยไม่ได้จริงไหมคะ เป็นผู้หญิงก็ต้องหมั่นดูแลตัวเองเป็นพิเศษ แต่วันนี้เราจะมาแนะนำเคล็ดลับในการดูแลตนเอง ในราคาประหยัดงบประมาณกัน เพราะช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดี ถ้าพร้อมแล้วไปดูเคล็ดลับในการดูแลตัวเองแบบทำตามได้ง่ายๆเลยค่ะ 1. ทานอาหารที่มีประโยชน์การทานอาหารบำรุงผิว ที่มีวิตามินซีเพื่อผิวใส วิตามินเอ และมีวิตามินอี ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิด โรคหลอดเลือด และโรคมะเร็ง มีส่วนช่วยเพิ่มคอลลาเจนบนใบหน้า ป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร เช่น มะเขือเทศ  แนะนำให้ดื่มน้ำมะเขือเทศดอยคำ100% เพราะมีวิตามินซีและเอสูงถึง 200% ทานบรอกโคลี อะโวคาโด  และควรรับประทานอาหารที่มีสารแอนโทไชยานินปริมาณสูง พวกผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ บำรุงดวงตาและผิวพรรณทำให้ผิวกระชับ เต่งตึง 2. กินกระเทียม เนื่องจากกระเทียมมีวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา วิตามินซี ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกายช่วยทำให้ผิวสวยใส สุขภาพดี ดูกระชับเต่งตึง บำรุงกล้ามเนื้อ 3.ชาเขียวที่อุดมไปด้วย สาร์แอนติออกซิแดนด์ ซึ่งมีคุณสมบัติยันยั้งริ้วรอยก่อนวัยอันควร  แถมยังช่วยในการดูดซับสิ่งสกปรกจากผิวหน้า หากเราใช้มาสก์ที่มีส่วนผสมของชาเขียว 4.การที่เราจะมีริมฝีปากนุ่มสวยน่าจุ๊บ ก็ต้องเติมความชุ่มชื้นของผิวด้วยลิปบาล์มที่มีส่วนผสมที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่น ไม่เหนียวเนอะหนะ มีสารกันแดด SPF 15+ รู้จักเลือกโดยเลือกชนิดที่ปรากจากสารพาราเบนอย่างน้อย 5% ขึ้นไปช่วยเติมเต็มความชุ่มชื่นให้เรียวปากได้ดีเพื่อช่วยให้ริมฝีปากชุ่มชื้น

Read More