Author: admin_pbn

            รองพื้น ถือเป็นไอเทมสำคัญของการแต่งหน้าที่จะขาดไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ด้วยเนื้อของรองพื้นแต่ละประเภทที่แตกต่างกัน นอกจากควรรู้ว่าจะเลือกรองพื้นแบบใดให้เหมาะกับผิวของเราแล้ว ควรมีความรู้เกี่ยวกับพัฟที่จะใช้สำหรับรองพื้นแต่ละประเภทด้วย รองพื้นแบบน้ำเป็นรองพื้นประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากที่สุด และเหมาะกับทุกสภาพผิว มีเนื้อให้เลือกหลายแบบ ทั้งแบบด้าน และแบบซาติน ให้การปกปิดแต่บางเบา ในการลงรองพื้นแบบน้ำ ควรใช้ ฟองน้ำ แปรง หรือ พัฟแบบแบน และเนื้อแน่น เพราะจะช่วยให้เกลี่ยรองพื้นได้สม่ำเสมอมากขึ้น แป้งผสมรองพื้นแป้งผสมรองพื้นเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวมัน เนื่องจากสามารถช่วยดูดซับความมันส่วนเกินและให้ผิวเคลือบด้าน นอกจากนี้ยังให้การปกปิดที่เบากว่ารองพื้นชนิดน้ำอีกด้วย ในการทาแป้งผสมรองพื้น ให้ใช้พัฟที่มีขนนุ่ม เพราะจะช่วยในการกระจายแป้งอย่างสม่ำเสมอ และป้องกันไม่ให้เป็นก้อน ครีมรองพื้นครีมรองพื้นเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้ง เนื่องจากจะให้ความชุ่มชื้นมากกว่ารองพื้นประเภทอื่นๆ ทั้งยังให้การปกปิดมากกว่ารองพื้นแบบแป้ง แต่น้อยกว่ารองพื้นแบบน้ำ หากต้องการทาครีมรองพื้น ให้ใช้ พัฟเนื้อแน่น เพราะจะช่วยเกลี่ยผลิตภัณฑ์ให้แนบเนียนไปกับผิว รองพื้นแบบแท่งรองพื้นแบบแท่งสะดวกและใช้งานง่าย ทำให้เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องเดินทาง ให้การปกปิดระดับปานกลางถึงระดับสูง และเหมาะสำหรับทุกสภาพผิว ในการทารองพื้นแบบแท่ง ให้ใช้ พัฟแบบแบน และหนา เพราะจะช่วยเกลี่ยผลิตภัณฑ์ให้สม่ำเสมอและป้องกันไม่ให้เกิดริ้วรอย คุชชั่นรองพื้นคุชชั่นรองพื้นเป็นลูกผสมระหว่างรองพื้นชนิดน้ำและแป้ง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลุคที่ดูเป็นธรรมชาติ มาในตลับคุชชั่นแบบฟองน้ำที่ชุ่มไปด้วยรองพื้น ในการทาคุชชั่นรองพื้น ให้ใช้พัฟที่มาพร้อมกับคุชชั่น วิธีนี้จะช่วยกระจายผลิตภัณฑ์อย่างสม่ำเสมอและให้ผิวสวยไร้ที่ติ            การเลือกประเภทรองพื้น และพัฟที่เหมาะสม สามารถช่วยสร้างความสมบูรณ์แบบให้กับการแต่งหน้าได้

Read More

                ทุกวันนี้คำว่าสวยด้วยแพทย์ หรือความสวยที่เกิดจากการทำศัลยกรรม นับเป็นเรื่องปกติธรรมดา หลายคนที่พอจะมีทุนทรัพย์จึงเลือกทำศัลยกรรมใบหน้าเพื่อแก้ไขจุดบกพร่อง และปรับลุคให้ดูดีขึ้น เพราะความสวยเป็นเหมือนใบเบิกทางไปสู่ความสำเร็จในหลายๆ ด้าน บางคนพอหน้าเปลี่ยนแล้วชีวิตดีขึ้นทันที มีแต่โอกาสดีๆ วิ่งเข้าหา แต่ทราบกันไหมว่าศัลยกรรมส่วนไหน ที่ทำให้หน้าของคนเราเปลี่ยนได้มากที่สุด? ถ้าอยากรู้เรามีคำตอบมาฝาก               อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่คิดจะไปทำศัลยกรรมส่วนไหนก็แล้วแต่ ควรศึกษาข้อมูลให้ดีและปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อน รวมถึงต้องเลือกทำกับสถานเสริมความงามที่น่าเชื่อถือด้วย ที่สำคัญอย่าด่วนตัดสินใจเอาเองว่าทำแบบนั้นแบบนี้จะเหมาะกับหน้าเรา ให้คุณหมอเป็นคนช่วยวิเคราะห์น่าจะดีที่สุด ติดตามบทความ beauty tip ในทุกสัปดาห์ได้ที่ thebeauty-checkin.com FB : Beauthy Healthy

                เคยลองสังเกตกันดูบ้างไหมว่า ทำไมบางคนแต่งหน้าแล้วออกมาดูสวยเป็นธรรมชาติ แถมยังดูหน้าเด็ก แต่ทำไมบางคนแม้จะพยายามแต่งเท่าไหร่ก็ไม่ดูไบรท์ขึ้นมาเลย แถมยังดูแก่ขึ้นอีกด้วย จะบอกให้ว่าจริงๆ แล้วสาเหตุส่วนหนึ่งมันมาจากการแต่งตาแบบผิดๆ นั่นเอง วันนี้เราเลยจะมาบอกถึงวิธีการแต่งตาแบบผิดๆ ว่ามีอะไรบ้าง จะได้รีบแก้ไขกันทัน ก่อนจะดูหน้าแก่ไปมากกว่านี้! ใช้อายไลเนอร์สีเข้มเกินไปอายไลเนอร์สีเข้มมากๆ จะทำให้ลุคเราดูแข็งและดุ แม้อายุจะยังน้อยก็ตาม แต่ถ้ากรีดตาแบบนี้ยังไงก็ดูแก่ ยิ่งในวันที่เหนื่อยล้า ไม่ได้นอน และผิวรอบดวงตาโรยราก็ยิ่งดูพัง ดังนั้นการใช้อายไลเนอร์สีอ่อนๆ อย่างสีน้ำตาลอ่อน จะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะมันจะช่วยทำให้ตาของเราดูไบรท์ขึ้น และยังไม่ทำให้ดูแก่ด้วย กรีดอายไลเนอร์หนาเกินไปควรเลี่ยงการกรีดอายไลเนอร์แบบหนาๆ เพราะจะทำให้ดูแก่ขึ้นมากๆ การกรีดอายไลเนอร์ด้วยเส้นบางๆ จะทำให้ดวงตาดูเป็นธรรมชาติ และดูเข้ากับดวงตาของเรามากกว่า ส่วนบางคนที่อาจจะอยากได้ลุคสโมกกี้อาย ก็ควรเลี่ยงอายไลเนอร์หนาๆ แล้วไปเน้นที่อายแชโดว์แทนจะดีกว่า กรีดขอบตาล่างด้วยสีเข้มการกรีดขอบตาไม่จำเป็นต้องทำทั้งบนและล่างเสมอไป การกรีดขอบตาล่างนั้นไม่เพียงแต่จะทำให้ตาของเราดูเล็กลง แต่จะทำให้หน้าดูแก่ขึ้นด้วย แถมถ้าใช้อายไลเนอร์สีเข้ม ยังทำให้ตาดูคล้ำและดูเศร้าอีกด้วย เว้นเสียแต่ว่าใช้เป็นสีอ่อนๆ เพราะสีอ่อนๆ แม้จะกรีดที่ขอบตาล่าง ก็จะทำให้ดวงตาของเราดูโตและไบรท์ขึ้น แต่งตาด้วยกลิตเตอร์เยอะเกินไปถ้าเราแต่งตาด้วยกลิตเตอร์มากเกินไป จะยิ่งทำให้หน้าดูแก่ เพราะกลิตเตอร์จะไปย้ำริ้วรอยและผิวที่แห้งให้ชัดขึ้นไปอีก ฉะนั้นหากอยากให้ตาดูไบรท์ การใช้อายแชโดว์แบบมีชิมเมอร์ ถือเป็นตัวเลือกที่ใช่มากกว่ากลิตเตอร์              นอกจากการแต่งตาแบบผิดๆ ทั้งหมดที่ได้พูดไปแล้ว ยังมีอีกเคล็ดลับหนึ่งที่ช่วยให้การแต่งตาดูสวยและไม่แก่ นั่นก็คือให้ลงไพรเมอร์ก่อนแต่งตา โดยเฉพาะไพรเมอร์ที่มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูรอนิค ซึ่งจะช่วยทำให้ผิวรอบดวงตาชุ่มชื้นและเนียนขึ้น

Read More

                 อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ว่าเมืองไทยเป็นเมืองร้อน การจะออกไปทำธุระนอกบ้าน หรือไปทำงานแล้วไม่ให้โดนแดดแรงๆ เนี่ย ถือเรื่องที่ยากมากๆ หรือแทบจะเรียกว่าเป็นไปไม่ได้เลย เมื่อผิวอันบอบบางของคนเราต้องเจอกับแดดแรงๆ  แล้วไม่ค่อยได้ทาครีมกันแดด หรือใช้กันแดดที่คุณภาพไม่ดีพอ ฝ้า ตัวร้ายก็ต้องถามหาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้             พอเป็น ฝ้า หลายคนอาจแก้ไขโดยการไปทำเลเซอร์ ซึ่งก็ต้องแลกมาด้วยราคาที่แสนแพง และก็คงไม่ใช่ทุกคนที่ยินดีจ่าย คงจะดีกว่าถ้ามีวิธีอื่นๆ ที่พอจะช่วยลดรอยฝ้าให้ได้บ้าง วันนี้เรามีวิธีเหล่านั้นมาแนะนะ               ฝ้า ถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาผิวที่น่ากลุ้มที่สุดของสาวๆ เพราะเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว การจะรักษาให้หายได้นั้น ถือเป็นเรื่องที่ยากมากๆ แถมยังชอบมาขึ้นในบริเวณที่มองเห็นได้ชัดอย่างแก้มและหน้าผากอีกด้วย หลายคนจึงพยายามหาทางกำจัดฝ้าให้หมดไปโดยเร็ว                 อย่างไรก็ตาม กระบวนการเกิดฝ้านั้นมาจากการที่เม็ดสีบนผิวทำงานมากเกินไป โดยส่วนใหญ่ก็มาจากการที่ผิวโดนแดดแรงๆ เป็นประจำนั่นแหล่ะ เพราะแสงแดดคือตัวกระตุ้นสำคัญที่ทำให้เกิดฝ้า และก็ยังมีบางส่วนที่เกิดจากการกินยาบางชนิด ฮอร์โมน และกรรมพันธุ์ ฉะนั้นหากไม่อยากเป็นฝ้าแล้วต้องมานั่งกลุ้มใจในภายหลัง ก็ควรหาวิธีป้องกันเมื่อต้องออกไปเจอแดดจะดีที่สุด ติดตามบทความ beauty tip ในทุกสัปดาห์ได้ที่ thebeauty-checkin.com FB : Beauthy Healthy

                คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่า อีกหนึ่งปัญหาใหญ่สำหรับการแต่งหน้าของสาวๆ ที่แต่งเท่าไหร่ก็ไม่เนียนสวยดั่งใจได้ซักที ก็คือปัญหาสิวอุดตันบนใบหน้า สำหรับสาวๆ ที่มีสิวอุดตัน ยังไม่มีหัว จะบีบออกก็ทำไม่ได้ เวลาแต่งหน้าก็กลบไม่ค่อยมิด การจะแต่งหน้าให้ออกมาสวย จึงเป็นเรื่องชวนปวดหัวไม่น้อย วันนี้เราเลยมีเทคนิคดีๆ มาฝาก เพื่อช่วยกลบสิวอุดตันให้สามารถแต่งหน้าได้สวยเนียนกริบ ใครอยากรู้ตามมาดูกันเลย ขั้นตอนแรก ให้ทำการแต้มยาละลายสิวอุดตันทิ้งไว้ 5-10 นาทีก่อนล้างหน้า เพื่อให้สิวที่นูนๆ แข็งๆ อ่อนตัวลง และสามารถแต่งหน้ากลบสิวได้ง่ายขึ้น หลังจากล้างหน้าแล้วก็ให้ลงครีมบำรุง โดยเว้นบริเวณที่เป็นสิวเอาไว้ เพราะถ้าไม่เว้นไว้ ก็จะทำให้รองพื้นตรงสิวหลุดออกได้ง่าย ขั้นตอนต่อไปให้ใช้เบสสีเขียว มาลงแต้มไปบนสิวอุดตัน โดยให้แต้มทิ้งไว้ก่อน แต่ยังไม่ต้องเกลี่ยให้สีจางกลืนไปกับผิว เพราะเราจะใช้สีเขียวในการช่วยหักเหแสง เพื่อทำให้สิวดูนูนแดงน้อยลงยังไงล่ะ จากนั้นก็ให้เลือกใช้คอนซีลเลอร์เนื้อครีม ที่มีสีเข้มกว่าสีผิวจริงของเราเล็กน้อย โดยลงทับไปบนเบสสีเขียวที่เราแต้มทิ้งไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งตัวคอนซีลเลอร์ที่สีเข้มหน่อยจะช่วยปกปิดรอยสิว และรอยนูนต่างๆ ได้เนียนขึ้น ทำให้สิวอุดตันดูเด่นชัดน้อยลง จากนั้นจึงค่อยลงรองพื้นได้ตามปกติ โดยใช้ฟองน้ำกดเบาๆ ในจุดที่เป็นสิว เพื่อจะได้ไม่หลุดลอกออก และในขั้นตอนสุดท้ายนี้ ก็ให้แตะแป้งผสมรองพื้นลงไปอีกครั้ง เฉพาะในจุดที่เป็นสิวอุดตัน และได้ทำการลงคอนซีลเลอร์ รวมทั้งรองพื้นไว้เรียบร้อยแล้ว เพื่อเซ็ตให้รองพื้นติดแน่นทนนานมากยิ่งขึ้น และตัวเนื้อแป้งผสมรองพื้นเอง ก็ยังสามารถช่วยปรับผิวให้เรียบเนียนขึ้นอีกชั้นหนึ่งด้วย                  ใครที่มีปัญหาสิวอุดตันบนใบหน้า

Read More

                หน้าร้อนแดดแรงแบบนี้ ใครที่เป็นสายแต่งหน้าจัดเต็ม ชอบโบ๊ะเมกอัพแบบฟูลออฟชัน คงจะมีปัญหาน่าปวดหัวเหมือนๆ กัน คือ แต่งหน้าแล้วไหลเยิ้มเลอะเทอะไปกับเหงื่อ น่าเบื่อสุดๆ เลยใช่ไหมล่ะ ถ้าใครที่กำลังเหนื่อยใจกับปัญหานี้อยู่ เรามีวิธีแต่งหน้าให้สวยรับหน้าร้อนมากระซิบ ลองเอาวิธีการเหล่านี้ไปใช้ดู รับรองว่าเมกอัพจะติดทนไม่เยิ้มไม่ย้อยอีกต่อไป               ได้รู้เคล็ดลับอย่างนี้ ต่อไปสาวๆ คงได้สวยสดใสในหน้าร้อนกันได้อย่างสบายใจ โดยไม่ต้องกังวลกับหน้ามันเยิ้มอีกแล้วนะ ติดตามบทความ beauty tip ในทุกสัปดาห์ได้ที่ thebeauty-checkin.com  FB : Beauthy Healthy