เคล็ดลับดูแลตัวเองฉบับสาวสองพันปี

เคล็ดลับดูแลตัวเองฉบับสาวสองพันปี

   เมื่อเข้าสู่วัยทอง เรามักต้องเจอปัญหาสุขภาพ ทั้งสุขภาพกายและใจ เรามารับมือกับวัยเก๋าด้วยแพทย์ทางเลือก ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหา การฝังเข็ม  มีหลายงานวิจัยที่ช่วยลดอาการวัยทองและทำให้อารมณ์ดีขึ้น สมุนไพร อย่างโสม กวางเครือขาว ทำให้ร่างกายแข็งแรง ลดความเครียด แต่ไม่ช่วยลดอาการร้อนวูบวาบได้ อาหารเสริม อย่างเมลาโทนิน ช่วยให้ลดความเครียด ร่างกายแข็งแรง การนั่งสมาธิ ขี่กงโยคะ ช่วยลดอาการเหล่านี้ได้ หัตถบำบัด การนวดช่วยให้ผ่อนคลาย  ช่วยลดอาการร้อนวูบวาบ เหงื่อออก นอนไม่หลับ ปัสสาวะบ่อย วันนี้เราจะมาบอกเคล็ดไม่ลับให้ทุกท่านได้ทราบ ว่าสาวสองพันปีที่เขาแลดูอ่อนกว่าวัย เขามีเคล็ดลับในการดูแลตัวเองอย่างไร Cr.pic; www.freepik.com 1.สุขภาพดี เริ่มต้นที่สุขภาพจิตที่ดี อารมณ์ดี สามารถจัดการความเครียดได้ สามารถแก้ปัญหาชีวิตได้ รู้จักมีเมตตาและให้อภัยคนอื่น รู้วิธีผ่อนคลายความเครียด ปล่อยวางกับปัญหาที่ผ่านเข้ามาในชีวิต มองโลกในแง่ดี รักษาน้ำหนัก ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ หากน้ำหนักเยอะเกินไปอาจเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด ความดันสูง เบาหวาน Cr.pic; www.freepik.com 2.การรับประทานอาหาร อาหารที่มีกากใยสูง ช่วยป้องกันท้องผูก ลดโอกาสเกิดมะเร็งลำไส้ วันหนึ่งควรรับประทานที่มีกากใยให้ได้ 25-35 กรัมต่อวัน

Read More

ทำไมต้องเก็บสกินแคร์ไว้ในตู้เย็น?

ทำไมต้องเก็บสกินแคร์ไว้ในตู้เย็น?

               เชื่อว่าคงมีหลายคนเคยได้รับคำแนะนำให้เก็บครีมบำรุงผิว และสกินแคร์ต่างๆ ไว้ในตู้เย็นกันมาบ้าง และก็หลายคนทำตามจนพอเปิดตู้เย็นออกมาจะเจอผลิตภัณฑ์เหล่านี้มากกว่าของกินซะอีก ว่าแต่เราควรเก็บสกินแคร์ไว้ในตู้เย็นจริงหรือไม่? และการเก็บของเหล่านี้ไว้ในตู้เย็น จะช่วยรักษาคุณภาพของครีมให้ใช้ได้ยาวนานขึ้นนั้นมันเป็นความจริง หรือเป็นเพียงความเชื่อ วันนี้เราจะพามาหาคำตอบกัน เก็บสกินแคร์ไว้ในตู้เย็นช่วยทำให้ใช้ได้นานขึ้นจริงหรือ?                การเก็บสกินแคร์ไว้ในตู้เย็นจะช่วยให้รักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้ใช้ได้ยาวนานขึ้นจริง เพราะความเย็นจะช่วยรักษาคุณภาพของสารต้านอนุมูลอิสระไม่ให้เสื่อมคุณภาพเร็ว และในทางตรงกันข้าม ความร้อน รวมถึงแสงแดดจะทำให้ครีมเสื่อมสภาพเร็ว                อย่างไรก็ตาม การเก็บสกินแคร์ไว้ในตู้เย็นก็ยังมีสิ่งที่ควรระวังอยู่ มาดูกันดีกว่าว่า ถ้าคิดจะเก็บสกินแคร์ไว้ในตู้เย็น ต้องระวังอะไรบ้าง สิ่งที่ต้องระวังในการเก็บสกินแคร์ไว้ในตู้เย็น               กล่าวโดยสรุปคือ การเก็บสกินแคร์ไว้ในตู้เย็น นับเป็นวิธีที่ช่วยยืดระยะการใช้งานของผลิตภัณฑ์ได้ดี แต่เราก็ต้องมั่นใจด้วยว่า ได้ทำอย่างถูกวิธีจริงๆ เพื่อจะได้ใช้สกินแคร์ไปได้อย่างยาวนาน และมีความปลอดภัยไปด้วยพร้อมๆ กัน ติดตามบทความ beauty tip ในทุกสัปดาห์ได้ที่ thebeauty-checkin.com FB : Beauthy Healthy

ตัวช่วยให้สาวๆ มีกลิ่นหอมตลอดวัน

ตัวช่วยให้สาวๆ มีกลิ่นหอมตลอดวัน

                  สำหรับผู้หญิงแล้ว การมีกลิ่นตัวหอมตั้งแต่หัวจรดเท้าตลอดวัน ถือเป็นสิ่งที่เพิ่มเสน่ห์ให้ได้เป็นอย่างมาก เพราะกลิ่นหอมๆ ย่อมเพิ่มความมั่นใจให้สาวๆ ได้ โดยเฉพาะเมื่อต้องออกไปทำกิจกรรมต่างๆ อย่างการไปประชุม หรืออยู่ในสถานที่ที่มีคนเยอะๆ ซึ่งอาจสร้างความกังวลใจในเรื่องกลิ่นตัวอยู่บ้าง วันนี้เราจึงได้รวบรวมตัวช่วยที่จะทำให้สาวๆ มีกลิ่นตัวหอมตลอดวันมาแชร์ให้ได้ทำตามกัน ลูกกลิ้งน้ำหอมตัวช่วยแรกคือ ลูกกลิ้งน้ำหอม หรือที่เรียกว่า Roller Perfume ซึ่งเป็นน้ำหอมที่ช่วยเพิ่มกลิ่นหอมให้กับเราได้ในระหว่างวัน ทั้งยังพกพาสะดวก โดยแนะนำให้ทาที่ข้อมือ ข้อพับแขน ต้นคอ และหลังใบหู ซึ่งเป็นจุดที่กระจายกลิ่นได้ดี และยังช่วยให้หอมติดทนนาน สเปรย์ดับกลิ่นปากสเปรย์ดับกลิ่นปาก คือตัวช่วยดับกลิ่นอาหารที่เรากินในระหว่างวันได้ดี เพราะหลายคนอาจไม่มีเวลาแปรงฟันหลังกินมื้อเที่ยง ดังนั้นจึงควรพกสเปรย์ดับกลิ่นปากไว้ติดตัวเสมอ ครีมทามือการทำความสะอาดมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ ส่งผลให้มือแห้งได้ง่าย ดังนั้นจึงควรเพิ่มครีมทามือเข้ามาเป็นอีกหนึ่งตัวช่วย ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวมือแล้ว ยังทำให้มีกลิ่นหอมติดตัวด้วย ต่อไปถ้าจะออกไปทำกิจกรรมข้างนอก นอกจากจะพกแอลกอฮอล์แล้ว ก็อย่าลืมพกแฮนด์ครีมไปด้วย เพื่อจะได้ทั้งความสะอาดและความหอมไปพร้อมๆ กัน สเปรย์น้ำหอมฉีดผมสเปรย์น้ำหอมฉีดผม หรือ แฮร์มิสต์ ถือเป็นตัวช่วยกำจัดกลิ่นบนเส้นผมได้ดีมากๆ ยิ่งถ้าวันไหนไปนั่งกินที่ร้านปิ้งย่าง แล้วจะต้องไปต่อ แนะนำให้ฉีดแฮร์มิสต์เพื่อระงับกลิ่น วิธีนี้จะช่วยให้สาวๆ มั่นใจได้เลยว่าเส้นผมที่สะบัดไปมาของเราจะไม่พากลิ่นไม่พึงประสงค์ไปแตะจมูกใครเข้า สเปรย์ดับกลิ่นเท้าสเปรย์ดับกลิ่นเท้า คืออีกหนึ่งตัวช่วยเพิ่มความหอมให้กับเราได้ เพราะอย่าลืมว่าเท้ามีโอกาสเกิดกลิ่นที่ไม่น่าพิสมัยได้ง่าย ยิ่งถ้าวันไหนจะต้องทำกิจกรรมเยอะ เหงื่อออกมาก ก็ยิ่งเพิ่มความอับชื้นให้กับเท้า

Read More

วิธีลดรอยย่นบนหน้าผาก

วิธีลดรอยย่นบนหน้าผาก

                หลายคนอาจคิดว่ารอยย่นบนหน้าผากถือเป็นเรื่องปกติ เมื่อคนเราอายุเพิ่มขึ้นก็ต้องมีบ้างเป็นธรรมดา ซึ่งสาเหตุหลักก็คือการสูญเสียคอลลาเจนที่ช่วยให้ผิวหนังเต่งตึงนั่นเอง ส่งผลทำให้เกิดเส้นริ้วและรอยเหี่ยวย่นที่เห็นชัดเจนมากขึ้น บางคนเลือกกำจัดรอยย่นบนหน้าผากด้วยการฉีดโบท็อกซ์และวิธีการทางการแพทย์ แต่ก็ยังมีอีกหลายวิธีที่เราสามารถทำได้ด้วยตัวเอง ทั้งยังช่วยป้องกันรอยย่นบนหน้าผากที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย จะมีวิธีไหนบ้างลองมาดูกัน ทาครีมกันแดดสม่ำเสมอรังสียูวีจากดวงอาทิตย์คือตัวการสำคัญที่คอยทำร้ายผิวของเรา โดยจะทำให้เกิดความเสียหายของคอลลาเจน ซึ่งการใช้ครีมกันแดดสามารถช่วยลดความเสี่ยงนี้ได้ และสำหรับแดดเมืองไทย ขอแนะนำให้ใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป ทามอยเจอร์ไรเซอร์เป็นประจำหากผิวของเราอ่อนแอ ก็จะไม่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้ ส่งผลให้ผิวขาดน้ำ และเกิดเป็นริ้วรอยต่างๆ การจัดการกับปัญหาผิวขาดน้ำสามารถทำได้โดยใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีสารให้ความชุ่มชื้นอย่างกรดไฮยาลูโรนิกเป็นประจำ ก็จะช่วยดึงน้ำเข้าสู่ผิวและช่วยทำให้ผิวกลับมาอิ่มฟูได้ ทาครีมลดเลือนริ้วรอยครีมลดเลือนริ้วรอยที่มีประสิทธิภาพ ควรประกอบไปด้วยสารเหล่านี้ เรตินอล เป็นสารที่ช่วยเสริมการผลัดเซลล์ผิว รวมทั้งกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งสามารถช่วยลดเส้นริ้ว และรอยเหี่ยวย่นจากวัยที่เพิ่มขึ้นได้ สารต้านอนุมูลอิสระ อย่างพวกวิตามินซี สามารถช่วยป้องกันอนุมูลอิสระที่ทำร้ายผิว และยังช่วยเพิ่มคอลลาเจนได้อีกด้วย ไนอาซินาไมด์ ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว และกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ในผิว จัดการกับความเครียดความเครียดนับเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดริ้วรอย เนื่องจากฮอร์โมนคอร์ติซอลสามารถลดการผลิตคอลลาเจนได้ นอกจากนี้การมีสีหน้าเคร่งเครียดซ้ำๆ ก็ทำให้เกิดริ้วรอยได้เช่นกัน การจัดการกับความเครียดของตัวเองได้อย่างเหมาะสม ช่วยจึงป้องกันการเสื่อมสภาพของผิวได้ หยุดสูบบุหรี่สารนิโคตินในบุหรี่จะลดการไหลเวียนของออกซิเจนและสารอาหารไปหล่อเลี้ยงเซลล์ผิว นำไปสู่การสลายตัวของคอลลาเจน ทำให้ผิวยืดหยุ่นน้อยลง เป็นเหตุให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย โดยเฉพาะบริเวณหน้าผาก ดังนั้นหนึ่งในวิธีที่ช่วยป้องกันได้ก็คือการเลิกสูบบุหรี่              ใครอยากกำจัดรอยเหี่ยวย่นบนหน้าผากด้วยตัวเองโดยไม่ต้องเสียเงินแพงๆ และไม่ต้องเจ็บตัวด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ ก็สามารถนำวิธีการเหล่านี้ไปใช้งานได้นะ ติดตามบทความ beauty tip ในทุกสัปดาห์ได้ที่ thebeauty-checkin.com

Read More

เคล็ดลับความงามจากแป้งเด็ก

เคล็ดลับความงามจากแป้งเด็ก

                   สาวๆ หลายคนอาจมองข้ามแป้งเด็ก เพราะคิดว่าเป็นของใช้สำหรับเด็กๆ เท่านั้น แต่รู้หรือไม่ว่าแป้งเด็กไม่ได้มีประโยชน์แค่ไว้ทาตัวเด็กเท่านั้น แต่ยังทำประโยชน์ให้สาวๆ ได้อีกหลาย แถมยังช่วยประหยัดงบค่าเครื่องสำอางได้อีกด้วย วันนี้เราจึงรวบรวมเคล็ดลับควางามจากแป้งเด็ก ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาบอก เพิ่มความหนาให้ขนตาการใช้แป้งเด็กทาที่ขนตาก่อนปัดมาสคาร่า จะช่วยเพิ่มทั้งความหนาและความยาว โดยให้เคลือบแป้งเด็กลงบนขนตาก่อนที่จะปัด แป้งเด็กยังจะช่วยป้องกันรอยเปื้อนและทำให้ดูสวยงามอีกด้วย เซ็ตเครื่องสำอางเราสามารถใช้แป้งเด็กเซ็ตเครื่องสำอางให้อยู่ตัวได้โดยไม่จำเป็นต้องเสียเงินซื้อผลิตภัณฑ์ราคาแพงๆ เลย วิธีการคือ หลังแต่งหน้าเสร็จแล้ว ให้ใช้แป้งฝุ่นปัดลงไปในประมาณเล็กน้อยให้ทั่วหน้า เท่านี้ก็เรียบร้อย ช่วยให้ลิปสติกติดทนนานการใช้แป้งเด็กมาเป็นตัวช่วย จะทำให้ลิปสติกติดทนนานยิ่งขึ้น เริ่มจากทาลิปสติกลงไปชั้นหนึ่งก่อน จากนั้นก็วางทิชชูซับไปบนริมฝีปาก แล้วใช้แปรงชุบแป้งเด็กปัดลงไป ก่อนทาลิปสติกชั้นที่สองทับลงไปอีกครั้ง แค่นี้ก็ออกไปสวยเริ่ดแล้ว ปกปิดรอยแผล รอยขีดข่วนส่วนใครที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยขีดข่วนเล็กๆ น้อยๆ  เช่น รอยมีดบาด หรือรอนแมวข่วน และอยากจะปกปิดร่องรอยเหล่านั้น ให้ใช้แป้งเด็กโรยลงบนรอยแผล แป้งเด็กจะสามารถช่วยปกปิดรอยแผลที่คนอื่นจะมองเห็นได้ ดูแลผิวยามแว็กซ์ขนสาวๆ คนไหนที่แว็กซ์อยู่เป็นประจำย่อมรู้ดีว่า ไม่ว่าจะแว็กซ์ตรงส่วนไหนของร่างกาย ก็ย่อมต้องรู้สึกเจ็บปวดจากการแว็กซ์บ้างไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณที่มีผิวมัน วิธีการแก้ไขคือ ให้โรยแป้งเด็กลงไปก่อนที่จะทำการแว็กซ์ เพียงเท่านี้แว็กซ์ก็จะติดแค่ขนของเรา แต่โดนผิวหนัง ป้องกันกลิ่นจากเท้าอับชื้นสำหรับใครที่ชอบออกกำลังกาย แต่ไม่มีเวลาอาบน้ำทันทีหลังออกกำลังเสร็จ หรือจำเป็นต้องใส่รองเท้าทั้งที่เท้ายังชุ่มเหงื่ออยู่ ขอแนะนำให้โรยแป้งเด็กไว้ที่ด้านในของรองเท้า แป้งจะช่วยดูดซับเหงื่อและกลิ่นเท้าที่ไม่พึงประสงค์ได้                แถมให้อีกสักเคล็ดลับ ซึ่งอาจไม่เกี่ยวกับความสวยความงามโดยตรง สำหรับใครที่ไปเที่ยวทะเลบ่อยๆ

Read More

สิวขึ้นกรอบหน้ารักษายังไง

สิวขึ้นกรอบหน้ารักษายังไง?

              เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยมีสิวขึ้นบริเวณกรอบหน้ากันมาบ้างไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะสาวๆ ที่ไม่ชอบรวบผม แต่มักปล่อยผมให้ยาวลงมาปรกหน้า สิวก็เลยขึ้นที่กรอบหน้า กราม และไรผมง่ายกว่าปกติ แถมยังขึ้นเป็นเม็ดเล็กๆ เป็นสิวอุดตันที่ลูบเจอทีไรก็หงุดหงิดใจทุกที ใครอยากรักษาสิวบริเวณนี้ให้หายขาด เรานี้เรามีวิธีมาบอก แต่ก่อนอื่นมารู้ถึงสาเหตุกันก่อนดีกว่า ล้างหน้าไม่สะอาดพอหากเราทำความสะอาดผิวหน้าไม่ดีพอ สิ่งตกค้างจากโฟมล้างหน้า แชมพู หรือครีมนวดผม ก็อาจก่อให้เกิดการอุดตัน และเกิดเป็นสิวเม็ดเล็กขึ้นตามกรอบหน้าได้ แพ้ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผมกรอบหน้ามักเป็นบริเวณที่โดนเส้นผมสัมผัสอยู่บ่อยๆ ซึ่งหากผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผมที่เราใช้อยู่มีส่วนผสมของสารเคมีที่ก่อให้เกิดการแพ้ ก็อาจทำให้เกิดสิวกรอบหน้าขึ้นได้ง่ายๆ เช่นกัน เหงื่อคนที่มีเหงื่อออกมากเวลาทำกิจกรรม หรือออกกำลังกาย จะเกิดสิวกรอบหน้าได้ง่าย เพราะเหงื่อที่สะสมอยู่บนเส้นผม เมื่อสัมผัสโดนผิวบริเวณกรอบหน้า ก็จะทำให้เกิดอาการคัน ผื่น แพ้ และเกิดเป็นสิวได้ ปลอกหมอนสกปรกเหงื่อยังสะสมบนปลอกหมอนได้ด้วย รวมถึงสิ่งสกปรกที่อยู่บนเส้นผมก็อาจตกค้างอยู่บนปลอกหมอนได้ เมื่อใบหน้าของเราสัมผัสเวลานอน ก็จะเกิดเป็นสิวอุดตันได้ง่าย โทรศัพท์มือถือนอกจากปลอกหมอนแล้ว โทรศัพท์มือถือก็เป็นแหล่งสะสมสิ่งสกปรกชั้นดี ซึ่งใครที่ชอบคุยโทรศัพท์นานๆ ก็อาจทำให้สิ่งสกปรกติดมาบริเวณกรอบหน้า และทำให้เกิดสิวได้ วิธีรักษาสิวกรอบหน้า ทำความสะอาดใบหน้าให้หมดจดควรแน่ใจว่าเราทำความสะอาดผิวหน้าหมดจดทุกครั้ง เพื่อป้องกันการตกค้างของสารต่างๆ แนะนำใช้โทนเนอร์เช็ดอีกครั้งหลังล้างหน้า เพราะนอกจากจะช่วยให้ใบหน้าสะอาดขึ้นแล้ว โทนเนอร์ยังช่วยปรับสภาพผิวหน้า และช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดการเกิดสิวอุดตันไปในตัวด้วย เลือกใช้ผลิตภัณฑ์เส้นผมสูตรอ่อนโยนผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของซิลิโคน ไม่เพียงแต่จะทำให้เกิดการอุดตันบนหนังศีรษะเท่านั้น แต่ยังก่อให้เกิดสิวอุดตันบริเวณกรอบหน้าได้ด้วย ฉะนั้นควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สูตรอ่อนโยนจะดีกว่า ล้างหน้าทุกครั้งเมื่อมีเหงื่อออกมาก เพื่อป้องกันการสะสมของเหงื่อบริเวณกรอบหน้า

Read More

แนะนำการเลือกสีลิปสติกสำหรับออกเดท พร้อมความหมายของแต่ละสี

แนะนำการเลือกสีลิปสติกสำหรับออกเดท พร้อมความหมายของแต่ละสี

              เชื่อว่าสาวๆ หลายคนน่าจะเคยมีปัญหาคล้ายๆ กัน คือ ไม่รู้จะทาลิปสติกสีอะไรไปออกเดทดี เพื่อไม่ให้คู่เดทมองว่าเราดูเยอะเกินไปหรือน้อยเกินไป นอกจากนี้การทาลิปสติกแต่ละสีก็ยังสื่อความหมายที่แตกต่างกันอีกด้วย วันนี้เราจึงรวบรวมลิปสติก 5 สี สำหรับการออกเดทมาฝากสาวๆ เพื่อใช้เป็นแนวทาง จะมีสีอะไรบ้างลองไปดูกันเลย สีแดงการทาลิปสติกสีแดงออกเดท สื่อความหมายว่า คุณชัดเจนต่อความรักครั้งมาก และรู้สึกถึงมันอย่างแรงกล้า เป็นการบ่งบอกตัวตนคุณโดยที่คู่เดทไม่จำเป็นที่ต้องเดาเลย เพราะการทาลิปสติกสีแดง คือการแสดงออกถึงความมั่นใจ และความหนักแน่นนั่นเอง สีชมพูการทาลิปสติกสีชมพูออกเดท สื่อความหมายว่า คุณยังไม่มั่นใจว่าตัวเองคิดอย่างไรกับความสัมพันธ์นี้กันแน่ หรืออีกความหมายหนึ่ง คือ ลึกๆ แล้วอาจไม่มั่นใจ แต่ข้างในก็ซ่อนความรักอยู่เต็มเปี่ยม สีส้มการทาลิปสติกสีส้มออกเดท สื่อความหมายว่า คุณให้ความสำคัญและกระตือรือร้นกับการออกเดทครั้งนี้มาก เนื่องจากสีส้ม ทำให้ดูเป็นผู้หญิงสนุกสนาน แต่ก็เป็นคนที่สนุกอย่างมีขอบเขต ที่สำคัญคือคุณตื่นเต้น และเต็มที่กับการใช้เวลาเพื่อการเดทครั้งนี้สุดๆ สีนู้ดการทาลิปสติกสีนู้ดออกเดท สื่อความหมายว่า คุณเป็นคนเปิดเผย ไม่มีสิ่งใดปิดบัง และพร้อมที่จะเป็นผู้ให้ด้วยความเต็มใจ การทาลิปสติกสีนี้ยังแสดงให้เห็นถึงบุคลิกว่าเป็นผู้หญิงอ่อนไหว และยังเป็นการบอกคู่เดทเป็นนัยๆ อีกว่า คุณอยากเป็นผู้หญิงที่เขาเลือก ไม่มีสีการทาลิปสติกไม่มีสี หรือทาแค่ลิปมันออกเดท สื่อความหมายว่า เป็นคนจริงใจ และไม่ได้ต้องการเล่นเกมกับความสัมพันธ์ครั้งนี้ ดังนั้นจึงเลือกที่จะแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมา เพื่อให้อีกฝ่ายได้เห็นและยอมรับในตัวคุณตั้งแต่เริ่มต้น นอกจากนี้ก็ยังเป็นการบอกเป็นนัยๆ

Read More

ตัวช่วยผมดกหนาจากธรรมชาติ

ตัวช่วยผมดกหนาจากธรรมชาติ

                    ปัญหาผมบางนับเป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วมีปัจจัยหลายอย่างที่กระตุ้นให้ผมของเราบางลงได้ ทั้งความเครียด ปัญหาฮอร์โมน โภชนาการไม่ดี ยาบางชนิด และการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งหลายคนอาจต้องเสียเงินเป็นจำนวนมากไปกับไอเทมดูแลผมราคาแพงๆ แต่เราสามารถใช้ของใกล้ตัวมาเป็นตัวช่วยทำให้ผมหนาขึ้นได้ ลองมาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง ไข่แดงไข่แดงช่วยให้ผมแข็งแรง และยังเพิ่มความเงางามไปพร้อมๆ กัน เพราะเต็มไปด้วยโปรตีน วิตามิน และสารอาหารที่จำเป็น ให้ใช้ไข่แดงผสมมะนาวและน้ำผึ้ง หมักผมไว้ก่อนสระประมาณ 30 นาที ทำสักสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ก็จะช่วยให้เส้นผมสุขภาพดีขึ้น น้ำมันมะกอกการนวดด้วยน้ำมันมะกอกจะช่วยทำให้ผมหนาและดกดำขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติได้ เพราะอุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญมากมาย ซึ่งเราสามารถใช้นวดลงไปบนหนังศีรษะเพื่อบำรุงและเร่งการเจริญเติบโตของเส้นผมบ่อยๆ ได้เลย น้ำข้าวในน้ำข้าวมีสารอิโนซิทอลที่สามารถซ่อมแซมผมเสียได้ โดยจะเป็นตัวช่วยเสริมสร้างรากผมให้แข็งแรง ละทำให้เส้นผมเรียบตรง ทั้งยังช่วยลดการหลุดร่วงของเส้นผม วิธีการคือให้ต้มข้าวโดยใส่น้ำให้มากหน่อย แล้วกรองเอาน้ำข้าวเก็บไว้ในตู้เย็น หลังจากสระผม ให้เทน้ำข้าวลงบนผมแล้วนวดเบาๆ ทิ้งไว้ 5 นาที แล้วล้างออก ทำสัปดาห์ละครั้งก็เพียงพอ กะทิในกะทิก็มีประโยชน์ไม่แพ้น้ำมันมะพร้าว เพราะเต็มไปด้วยสารอาหาร เช่น ธาตุเหล็ก ซีลีเนียม และแมกนีเซียม ซึ่งมีประโยชน์ต่อเส้นผม กะทิจึงสามารถทำให้ผมแข็งแรง ชุ่มชื้น ช่วยเร่งการเจริญเติบโตของเส้นผม และลดผมร่วงได้ โดยให้ผสมกะทิ 1

Read More

8 พฤตกรรมที่ควรเลี่ยง ถ้าอยากผิวสวย

8 พฤตกรรมที่ควรเลี่ยง ถ้าอยากผิวสวย

 ปัญหาผิวแห้งกร้าน เกิดจากผิวได้รับเอนไซม์ไม่เพียงพอ  เอนไซม์มีส่วนช่วยในการผลัดเซลล์ผิว วันนี้เราจะพามาดูกันว่าพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเราแบบใดบ้างที่ทำให้ร่างกายใช้เอนไซม์ไปอย่างฟุ่มเฟือย ไม่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย Cr.pic; www.freepik.com 1.รับประทานอาหารอย่างเร่งรีบ รวดเร็ว การรับประทานอาหารอย่างรวดเร็ว เคี้ยวไม่ละเอียด จะทำให้ร่างกายต้อหลั่งเอนไซม์ปริมาณมาก มาช่วยย่อยอาหาร นอกจากจะส่งผลต่อสุขภาพผิวแล้ว ยังทำให้เสี่ยงเป็นโรคไส้ติ่งได้อีกด้วย  ดังนั้นเราควรฝึกตัวเองให้เคี้ยวอาหารให้ละเอียด ทานอาหารให้ช้าลง อย่างน้อย 15 นาทีต่อมื้อ ไม่ทานอาหารจุกจิก เช่น เมื่อตักอาหารเข้าปาก 1 คำ ให้เตือนตัวเองว่าเคี้ยวอาหารในปากให้ได้อย่างน้อย 30 ครั้งต่อคำ 2. รับประทานอาหารปริมาณมากในครั้งเดียว การทานอาหารมากไป ทำให้หลั่งเอนไซม์มาใช้ไม่ทัน เมื่ออาหารถูกย่อยไม่หมด ทำให้เกิดการเน่าเสียภายในลำไส้ได้ ทำให้เกิดจุลินทรีย์ก่อโรคเพิ่มจำนวนขึ้น ไม่ควรทานอาหารให้ อิ่มเต็มที่ แต่ควรรับประทานแค่พออิ่ม Cr.pic; www.freepik.com 3.รับประทานอาหารที่มีกรดไขมันทรานส์ ไขมันทรานส์ คือ กรดไขมันไม่ดี ที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงของโรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย หรือ หัวใจขาดเลือด และยังกระตุ้นให้เกิดโรคภูมิแพ้มากขึ้นด้วย ไขมันทรานส์เป็นไขมันสังเคราะห์ที่ไม่ทำปฏิกิริยากับออกซิเจน จึงทำให้ร่างกายต้องหลั่งเอนไซม์ปริมาณมากเพื่อทำการย่อย แต่ถ้าผ่านการย่อยแล้ว สามารถนำไปใช้เป็นพลังงานได้ ไขมันทรานส์ มักพบในอาหารฟาสต์ฟู้ด 4.รับประทานอาหารที่มีสารเจือปนและสารเคมี

Read More

ทำยังไงให้สวยเป๊ะ หลังฉีดโบท็อกซ์

ทำยังไงให้สวยเป๊ะ หลังฉีดโบท็อกซ์

                  คงปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกคนอยากดูดีอยู่เสมอ และถึงแม้ว่าเราจะดูแลตัวเองจากภายใน ทั้งกินอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกาย และบำรุงด้วยสกินแคร์แล้ว แต่หลายคนก็อาจจะอยากใช้วิทยาการทางการแพทย์เข้ามาช่วยด้วย โดยเฉพาะการ “ฉีดโบท็อกซ์” ที่ปัจจุบันได้รับความนิยมมาก เนื่องจากเห็นผลเร็ว และค่าใช้จ่ายก็ไม่ได้ถึงกับแพงมาก                    สำหรับคนที่กำลังจะตัดสินใจฉีดโบท็อกซ์ครั้งแรก วันนี้เรามีสิ่งที่ควรรู้ก่อนฉีดโบท็อกซ์มาแนะนำ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป๊ะปัง แถมยังปลอดภัย จะมีอะไรบ้าง มาดูกันเลย พกหมากฝรั่งติดตัวไปด้วยนี่เป็นสิ่งที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน คือวันที่จะไปฉีดโบท็อกซ์ ให้เตรียมหมากฝรั่งติดตัวไปด้วยหากต้องการฉีดเพื่อลดกรามให้หน้าเรียว หรือทำหน้าวี เพราะการเคี้ยวหมากฝรั่งในช่วงแรกหลังฉีดโบท็อกซ์เสร็จใหม่ๆ จะ ช่วยให้ตัวยากระจายเข้ากล้ามเนื้อได้ดี และทำให้การฉีดโบท็อกซ์เห็นผลเร็วยิ่งขึ้น หลีกเลี่ยงความร้อนหลังฉีดโบท็อกซ์ ใครที่ชอบนวดหน้า อบไอน้ำ ซาวน์น่า โยคะร้อน หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่ต้องเจอกับความร้อน ควรรีบไปทำก่อนวันที่นัดฉีดโบท็อกซ์ เพราะหลังฉีด 4 สัปดาห์ ไม่ควรทำกิจกรรมเหล่านี้เด็ดขาด เนื่องจากความร้อนจะส่งผลให้โบท็อกซ์สลายเร็วกว่าปกติ ไม่นอนราบหรือนอนคว่ำหลังฉีดโบท็อกซ์เสร็จ โดยทั่วไปคุณหมอจะให้งดนอนราบและนอนคว่ำ เป็นเวลาอย่างน้อย 4 ชั่วโมง รวมไปถึงกิจกรรมอื่นๆ ที่ต้องนอนราบด้วย เช่น การนวดตัว นอนสระผมที่ร้านเสริมสวย สักคิ้ว ต่อขนตา ฯลฯ หากใครมีแพลนทำกิจกรรมเหล่านี้

Read More