เป็นธรรมดาที่ใครๆ ก็อยากมีเล็บใสอมชมพูดูสุขภาพดี แต่ก็คงมีอีกหลายคนที่ก้มลงมองมือตัวเองทีไร เป็นต้องหงุดหงิดกับอาการเล็บเหลืองทุกที “เล็บเหลือง” เป็นอาการที่มักเกิดขึ้นกับสาวๆ ที่หลงใหลการแต่งแต้มสีสันลงบนเล็บของตัวเอง จนไม่ปล่อยให้เล็บได้ว่างเว้นจากสีสัน เรียกว่าไม่มีเวลาได้พักหายใจ จนความขาวใสเริ่มจะกลายเป็นสีออกเหลือง หรือการใช้ยาทาเล็บที่ไม่มีคุณภาพ จนทำลายเนื้อเล็บ รวมถึงการไม่ลงรองพื้นก่อนทาเล็บ ก็มีส่วนทำให้เล็บเหลืองได้
![](https://thebeauty-checkin.com/wp-content/uploads/2021/04/5.jpg)
และอีกสาเหตุหนึ่ง หากคุณไม่ได้ทาเล็บ แต่เล็บกลับมีสีเหลือง นั่นอาจเกิดจากปัญหาสุขภาพบางอย่าง เช่น เป็นโรคเบาหวาน, โรคเกี่ยวกับต่อมน้ำเหลือง, โรคเกี่ยวกับตับ ไต ไทรอยด์, หรือแม้แต่การสูบบุหรี่จัด ก็ทำให้เล็บเหลืองได้เช่นกัน
![](https://thebeauty-checkin.com/wp-content/uploads/2021/04/6.jpg)
เล็บเหลืองแก้ไขได้
ใครกำลังหงุดหงิดกับอาการเล็บเหลือง เรามีวิธีแก้ได้ง่ายๆ มาฝากกัน ดังต่อไปนี้
- มะนาว+น้ำอุ่น
เป็นวิธีที่ทำได้ง่ายที่สุด ทำโดยแช่เล็บในน้ำอุ่นก่อนซัก 10 นาที พัก 3 นาที แล้วใช้มะนาวมาถูซ้ำลงบนเล็บ พักอีก 5 นาที แล้วค่อยล้างออก - มะนาว+เบคกิ้งโซดา
ทำโดยการนำมะนาวผสมกับเบคกิ้งโซดา คนให้เข้ากัน แล้วเอามาพอกเล็บ ทิ้งไว้ 15 นาที แล้วล้างออก - ยาสีฟัน
โดยเลือกชนิดที่เป็นยาสีฟันฟอกขาว ซึ่งนอกจากจะทำให้ฟันขาวได้แล้ว ยังใช้ฟอกเล็บได้ด้วย โดยให้ทาทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วล้างออก - แคลเซียม
ฟื้นฟูแค่ภายนอกอาจยังไม่พอ จำเป็นต้องฟื้นฟูจากภายในด้วย โดยการกินอาหารที่มีแคลเซียมสูง เช่น ไข่ นม โยเกิร์ต ถั่ว ผักโขม และปลาเล็กปลาน้อย เป็นต้น ซึ่งจะช่วยบำรุงเล็บให้กลับมาแข็งแรง มีสุขภาพดี และมีสีเล็บปกติได้
อย่างไรก็ตาม การแก้ไขที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น เป็นการแก้ไขอาการเล็บเหลืองที่มีสาเหตุมาจากการทาเล็บ และผลิตภัณฑ์ตกแต่งเล็บที่ไม่มีคุณภาพเท่านั้น แต่ถ้าหากเกิดจากปัญหาสุขภาพ ก็ควรพบแพทย์ เพื่อหาแนวทางแก้ไขที่ถูกต้องต่อไป
#เล็บเหลือง #thebeautycheckin.com #Beauty Tip
เครดิตภาพ: https://bit.ly/2ZzfCjp