เล็บเหลือง อีกหนึ่งเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม

เล็บ

เป็นธรรมดาที่ใครๆ ก็อยากมีเล็บใสอมชมพูดูสุขภาพดี แต่ก็คงมีอีกหลายคนที่ก้มลงมองมือตัวเองทีไร เป็นต้องหงุดหงิดกับอาการเล็บเหลืองทุกที “เล็บเหลือง” เป็นอาการที่มักเกิดขึ้นกับสาวๆ ที่หลงใหลการแต่งแต้มสีสันลงบนเล็บของตัวเอง จนไม่ปล่อยให้เล็บได้ว่างเว้นจากสีสัน เรียกว่าไม่มีเวลาได้พักหายใจ จนความขาวใสเริ่มจะกลายเป็นสีออกเหลือง หรือการใช้ยาทาเล็บที่ไม่มีคุณภาพ จนทำลายเนื้อเล็บ รวมถึงการไม่ลงรองพื้นก่อนทาเล็บ ก็มีส่วนทำให้เล็บเหลืองได้

และอีกสาเหตุหนึ่ง หากคุณไม่ได้ทาเล็บ แต่เล็บกลับมีสีเหลือง นั่นอาจเกิดจากปัญหาสุขภาพบางอย่าง เช่น เป็นโรคเบาหวาน, โรคเกี่ยวกับต่อมน้ำเหลือง, โรคเกี่ยวกับตับ ไต ไทรอยด์, หรือแม้แต่การสูบบุหรี่จัด ก็ทำให้เล็บเหลืองได้เช่นกัน

เล็บเหลืองแก้ไขได้

ใครกำลังหงุดหงิดกับอาการเล็บเหลือง เรามีวิธีแก้ได้ง่ายๆ มาฝากกัน ดังต่อไปนี้

  1. มะนาว+น้ำอุ่น
    เป็นวิธีที่ทำได้ง่ายที่สุด ทำโดยแช่เล็บในน้ำอุ่นก่อนซัก 10 นาที พัก 3 นาที แล้วใช้มะนาวมาถูซ้ำลงบนเล็บ พักอีก 5 นาที แล้วค่อยล้างออก
  2. มะนาว+เบคกิ้งโซดา
    ทำโดยการนำมะนาวผสมกับเบคกิ้งโซดา คนให้เข้ากัน แล้วเอามาพอกเล็บ ทิ้งไว้ 15 นาที แล้วล้างออก
  3. ยาสีฟัน
    โดยเลือกชนิดที่เป็นยาสีฟันฟอกขาว ซึ่งนอกจากจะทำให้ฟันขาวได้แล้ว ยังใช้ฟอกเล็บได้ด้วย โดยให้ทาทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วล้างออก
  4. แคลเซียม
    ฟื้นฟูแค่ภายนอกอาจยังไม่พอ จำเป็นต้องฟื้นฟูจากภายในด้วย โดยการกินอาหารที่มีแคลเซียมสูง เช่น ไข่ นม โยเกิร์ต ถั่ว  ผักโขม และปลาเล็กปลาน้อย เป็นต้น ซึ่งจะช่วยบำรุงเล็บให้กลับมาแข็งแรง มีสุขภาพดี และมีสีเล็บปกติได้

อย่างไรก็ตาม การแก้ไขที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น เป็นการแก้ไขอาการเล็บเหลืองที่มีสาเหตุมาจากการทาเล็บ และผลิตภัณฑ์ตกแต่งเล็บที่ไม่มีคุณภาพเท่านั้น แต่ถ้าหากเกิดจากปัญหาสุขภาพ ก็ควรพบแพทย์ เพื่อหาแนวทางแก้ไขที่ถูกต้องต่อไป

#เล็บเหลือง #thebeautycheckin.com  #Beauty Tip

เครดิตภาพ: https://bit.ly/2ZzfCjp

บทความอื่นๆที่น่าสนใจ