ประโยชน์ของโยเกิร์ต กับการเสริมความงามแบบหัวจรดเท้า

เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า โยเกิร์ต นั้นเป็นอาหารที่มีคุณค่าต่อร่างกายมาก แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือมันไม่ได้มีดีแค่กินได้เท่านั้น แต่ยังสามารถนำมาใช้ในการเสริมความงามได้อีกด้วย วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักประโยชน์ของโยเกิร์ตให้มากขึ้น จะมีอะไรบ้าง ตามมาดูกันเลย

ฟื้นฟูผมเสียให้กลับมาเงางาม
ไม่ว่าจะเป็นเส้นผมแบบไหน โยเกิร์ตก็สามารถเยียวยาผมที่เสียหายให้กลับมาดูดีได้ เพราะโปรตีนในโยเกิร์ตจะช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับเส้นผม ซ่อมแซมผมที่แตกปลาย และกรดแลคติคในโยเกิร์ตยังให้ความชุ่มชื่นแก่เส้นผมอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีวิตามินบี 12 และสารอาหารต่างๆ ที่ช่วยลดรังแคและป้องกันผมหงอกก่อนวัยได้ด้วย สาวๆ จึงควรหมักผมด้วยโยเกิร์ตบ้าง อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง โดยผสมโยเกิร์ต น้ำผึ้ง และว่านหางจระเข้ ในอัตราส่วนเท่าๆ กัน นำมาชโลมให้ทั่วเส้นผม หมักทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น เท่านี้ก็จะช่วยบำรุงให้เส้นผมชุ่มชื่นสวยงามได้

ช่วยให้หน้าใส
โยเกิร์ตนั้นสามารถนำมาพอกหน้าเพื่อบำรุงผิวพรรณ และช่วยผลัดเซลล์ผิวได้อย่างอ่อนโยน ทำให้ผิวหน้าเนียนนุ่มและขาวกระจ่างใสขึ้นได้ รวมถึงช่วยบรรเทาการอักเสบของสิวได้อีกด้วย โดยโยเกิร์ตเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากธรรมชาติ ไม่มีสารตกค้าง และไม่เป็นอันตรายต่อผิว หากสาวๆ มีรอยดำจากสิว หรือมีรอยคล้ำจากแดด ลองใช้สูตรโยเกิร์ต 1/2 ถ้วย + นํ้ามะนาว 1 ช้อนชา นำมาพอกลงบนผิวหน้าจนทั่ว ทิ้งไว้ 20 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด รับรองหน้าจะใสไร้สิว และยังช่วยให้ดูอ่อนเยาว์ ไม่แก่ก่อนวัยอีกด้วย

ลดอาการผิวไหม้แดด
เราสามารถบรรเทาอาการผิวไหม้จากแดดได้โดยใช้โยเกิร์ตธรรมดาพอก และปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที โยเกิร์ตไม่เพียงช่วยระบายความร้อน แต่ด้วยคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรีย จะช่วยยับยั้งการเผาไหม้จากการติดเชื้อ และช่วยให้ผิวชุ่มชื่นขึ้นได้

ป้องกันเชื้อรา
สำหรับสาวๆ ที่กังวลเรื่องกลิ่นอับและเชื้อราในจุดซ่อนเร้น จนเกิดความไม่มั่นใจ แนะนำให้กินโยเกิร์ตเป็นประจำ เพราะแลคโตบาซิลลัสในโยเกิร์ตนั้น ช่วยลดเชื้อราได้

สปาเท้านุ่ม

หากไม่อยากเปลืองเงินไปกับการเข้าร้านสปา ลองหยิบโยเกิร์ตมา 1 ถ้วย ผสมเข้ากับวอลนัทบด เท่านี้ก็สามารถนำมาสครับเท้าที่หยาบกร้านให้กลับมาชุ่มชื่นนุ่มนวลได้แล้ว

นอกจากอร่อยแล้วยังประโยชน์เยอะขนาดนี้ ใครที่ยังไม่เคยใช้โยเกิร์ตมาบำรุงความงามให้ตัวเอง ก็คงต้องลองกันบ้างแล้วล่ะ

ติดตามบทความ beauty tip ในทุกสัปดาห์ได้ที่ thebeauty-checkin.com