ขนคุด คือ ขนที่มีลักษณะเป็นตุ่มนูนๆ แข็งๆ และมักจะพบรอยแดงรอบๆ ตุ่มร่วมด้วย เมื่อใช้มือลูบ ก็จะรู้สึกว่าผิวขรุขระ ไม่เรียบเนียน โดยบริเวณที่มักจะพบขนคุดบ่อย ได้แก่ ขา สะโพก และรักแร้ ซึ่งสาเหตุของการเกิดขนคุดนั้น ส่วนใหญ่แล้วจะเกิดจากความผิดปกติของการสร้างเซลล์ผิวหนัง คือ มีการสร้างเคราตินออกมามากกว่าปกติ จึงทำให้เกิดการสะสมและอุดตันบริเวณรูขุมขน ทำให้ขนไม่สามารถงอกออกมาได้ จึงเกิดเป็นขนคุดอยู่ใต้ผิวหนังนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการระบุถึงสาเหตุที่แน่ชัดได้ว่า อะไรที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการสะสมของเคราตินเหล่านี้ แต่สันนิษฐานว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับพันธุกรรม หรือความผิดปกติบางอย่าง เช่น โรคผื่นภูมิผิวหนัง เป็นต้น และใน ปัจจุบันก็ยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถบรรเทาได้ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
- ใช้มอยส์เจอไรเซอร์เป็นตัวช่วย
เพราะผลิตภัณฑ์ในกลุ่มมอยส์เจอไรเซอร์จะให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว การใช้มอยส์เจอไรเซอร์บำรุงผิวเป็นประจำจึงช่วยให้โปรตีนเคราตินที่อุดตันบริเวณรูขุมขนหลุดออกไปได้
- ใช้ยาทากลุ่มวิตามินเอ
เนื่องจากยาทาในกลุ่มอนุพันธ์วิตามินเอ เช่น Diffarin และ Acnetin-A สามารถช่วยลดและป้องกันการอุดตันของรูขุมขนได้ แนะนำให้ทาก่อนนอน และควรเริ่มที่ความเข้มข้นต่ำๆ ก่อน เนื่องจากยาในกลุ่มนี้ทำให้เกิดการระคายเคืองผิวได้ง่าย แต่ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- ใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่ม Keratolytic Agent
ผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Keratolytic Agent เช่น AHA, BHA และ Urea Cream 20%, สามารถช่วยผลัดเซลล์ผิวได้ ร่วมถึงขจัดสิ่งที่อุดตันรูขุมขนอันนำไปสู่การเกิดขนคุดได้ด้วยเช่นกัน
- ใช้ยาทากลุ่มสเตียรอยด์
สำหรับยาทากลุ่มสุดท้ายนี้ คือ กลุ่มสเตียรอยด์ ไม่แนะนำให้ซื้อมาใช้เอง เพราะหากใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น เป็นสิว ผิวบางลง หรือ ผิวเป็นรอยด่าง รวมถึงเกิดอาการแพ้ได้ง่าย จึงแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ และให้แพทย์เป็นผู้สั่งจ่ายยาเท่านั้น
นอกจากแก้ปัญหาขนคุดโดยการใช้ยาแล้ว การหมั่นดูแลสุขภาพผิว ให้ผิวมีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ เช่น ไม่อาบน้ำอุ่น และทาน้ำมันมะพร้าวเป็นประจำ ก็สามารถช่วยให้อาการขนคุดดีขึ้นได้ด้วยเช่นกัน ที่ต้องระวังอีกอย่างคือการสครับผิวบ่อยเกินไป เพราะจะทำให้ผิวแห้งและระคายเคืองได้ง่าย อย่างไรก็ตามหากทำมาทุกวิธีที่แนะนำแล้วแต่ยังไม่ได้ผล ก็คงต้องพึ่งการทำเลเซอร์มาช่วยกำจัดขนคุดออกไป ซึ่งก็ให้ผลดีแต่ก็มีค่าใช้จ่ายสูง
ติดตามบทความ beauty tip ในทุกสัปดาห์ได้ที่ thebeauty-checkin.com
FB : Beauthy Healthy
